ความรู้จากแพทย์ศรีพัฒน์

ทานยาความดันแล้วขาบวม


อ.นพ.ภาณุเมศ ศรีสว่าง

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด

รหัสเอกสาร PI-IMC-289-R-01

อนุมัติวันที่ 12 ตุลาคม 2566




สาเหตุของการทานยาแล้วขาบวม เกิดจากอะไร


        ผู้ป่วยที่รับการรักษาและแพทย์ให้รับประทานยารักษาความดันโลหิตสูง และเกิดอาการขาบวม อาจมาจากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่พบได้มาก คือ เกิดจากยาที่รับประทาน โดยยาลดความดันที่ทำให้ขาบวมบ่อยที่สุด คือ ยากลุ่มต้านแคลเซี่ยม (Calcium channel blocker) ได้แก่ Amlodipine, Nifedipine, Felodipine , Lercanidipine เป็นต้น ซึ่งเป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้บ่อย



ผู้ป่วยกลุ่มไหน พบอาการนี้ได้บ่อย


อาการบวมจากยากลุ่มนี้อาจเกิดหลังจากใช้ไปแล้วสักระยะ ถ้าใช้ยาในขนาดสูงก็จะเกิดบ่อยขึ้น พบได้ถึง 15% โดยผู้ป่วยกลุ่มที่พบอาการขาบวมจากยานี้บ่อย  ได้แก่

  - ผู้หญิง ผู้สูงวัย

  - ผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลว

  - ผู้ป่วยที่ต้องยืนนานๆ อยู่ในที่อากาศร้อน  


แก้ไขอย่างไร

- กรณีบวมไม่มากให้นอนยกขาสูง หรือใส่ถุงน่อง

- ปรึกษาแพทย์เพื่อปรับขนาดยาลดลง สามารถช่วยลดบวมได้

- หากอาการไม่ดีขึ้น ปรึกษาแพทย์เพื่อเปลี่ยนใช้ยาความดันกลุ่มอื่นที่มีผลข้างเคียงบวมน้อยกว่า

- การใช้ยากลุ่ม ACEI หรือ ARB ร่วมด้วย ช่วยลดอาการบวมได้

          หากรับประทานยาและมีอาการบวม แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ หากสาเหตุที่พบเกิดจากการใช้ยา การปรับยาจะสามารถช่วยทำให้อาการบวมลดลงหรือหายไปได้ ที่สำคัญ คือ ไม่ควรหยุดยาหรือปรับยาเอง เพราะอาจทำให้ควบคุมความดันไม่ได้ และเป็นอันตรายต่อชีวิต รวมทั้งควรวัดความดันอย่างสม่ำเสมอ และหากมีอาการผิดปกติ รีบมาพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและการรักษาที่ถูกต้อง