ความรู้จากแพทย์ศรีพัฒน์

โรคหัวใจวาย


อ.นพ.ภาณุเมศ ศรีสว่าง

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด

รหัสเอกสาร PI-IMC-288-R-01

อนุมัติวันที่ 12 ตุลาคม 2566


โรคหัวใจวายคืออะไร


        หัวใจวายหรือภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน เกิดจากมีการอุดตันที่หลอดเลือดหัวใจอย่างเฉียบพลันและขัดขวางการไหลของเลือด จนทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงหัวใจได้ เมื่อหัวใจขาดเลือด ผลที่ตามมา คือ กล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย และอาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง (Ventricular fibrillation) และทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้



ปัจจัยเสี่ยงของหัวใจวายหรือกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน


1.  ความดันโลหิตสูง


2.  ไขมันในเลือดสูง


3.  เบาหวาน


4.  การสูบบุหรี่


5.  มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ


6.  โรคอ้วน



อาการสำคัญ


          โรคนี้มักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน บางรายอาจมีสุขภาพปกติ ร่างกายแข็งแรงดี แต่อยู่ๆ ก็มีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ซึ่งอาการผิดปกติที่สำคัญที่สุดที่สามารถสังเกตได้ เช่น


- เจ็บแน่นหน้าอกเหมือนมีอะไรมากดทับอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตรงกลางอก และเป็นนานเกินกว่าหนึ่งนาทีขึ้นไป


- เจ็บแน่นหน้าอกร้าวไปยังบริเวณคอ กราม ไหล่ และแขนทั้งสองข้าง


- มีเหงื่อออกตามร่างกาย


- เหนื่อยง่าย หายใจถี่กระชั้น


- วิงเวียน หน้ามืด


- ชีพจรเต้นเร็ว 



การรักษา


          หลังจากแพทย์วินิจฉัยโดยการซักประวัติ ตรวจร่างกายและตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ จนแน่ใจว่าผู้ป่วยเป็นภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจริง แพทย์จะทำการฉีดสีเพื่อหาตำแหน่งที่หลอดเลือดอุดตันแล้วจึงทำการเปิดหลอดเลือด โดยการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน ซึ่งเป็นวิธีการใส่สายสวนเข้าไปยังร่างกายผู้ป่วยที่บริเวณขาหนีบหรือที่แขนเพื่อเข้าไปยังหลอดเลือดหัวใจ หลังจากนั้นจึงขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนที่ติดอยู่ที่ปลายสายเพื่อดันไขมันที่อุดตันหลอดเลือดและทำให้ลิ่มเลือดหลุดออกไป ทำให้เลือดสามารถไหลผ่านจุดที่เคยตีบได้สะดวกขึ้น และจะใส่ขดลวดค้ำยันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการตีบซ้ำ 


           ในกรณีที่หลอดเลือดตีบหลายเส้น แพทย์อาจพิจารณาใช้วิธีการผ่าตัดบายพาสหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งเป็นการผ่าตัดต่อเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจเพื่อทำทางเบี่ยงเสริมหลอดเลือดบริเวณที่ตีบหรือตัน ทำให้เลือดผ่านส่วนที่ตีบหรือตันได้ดีขึ้น ส่งผลทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้มากขึ้น


          สิ่งสำคัญที่สุด คือ ผู้ป่วยจะต้องรีบมาพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อให้ได้รับการขยายหลอดเลือด ยิ่งทำได้เร็ว จะช่วยป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อหัวใจเสียหายและลดอัตราการเสียชีวิตได้