ความรู้จากแพทย์ศรีพัฒน์

"โรคภูมิแพ้ขึ้นตา" กับสาเหตุและแนวทางการรักษา



อ.นพ.ธนภัทร เชาว์วิศิษฐ์เสรี

จักษุแพทย์

รหัสเอกสาร PI-IMC-250-R-00

 อนุมัติวันที่ 22 ตุลาคม 2563

 

          อาการคันตา หนึ่งในอาการสำคัญที่ก่อให้เกิดความไม่สบายต่อดวงตา และสร้างความรำคาญต่อผู้ที่มีอาการดังกล่าว โดยธรรมชาติเมื่อเกิดอาการคันที่บริเวณตา คนส่วนใหญ่มักจะตอบสนองด้วยการถูหรือขยี้บริเวณเปลือกตาที่คัน ส่งผลให้เกิดอาการคันที่มากขึ้นและอาจมีผลเสียต่อบุคลิกภาพ ซึ่งในปัจจุบันสาเหตุสำคัญของอาการคันตาที่พบได้บ่อย คือ โรคภูมิแพ้ขึ้นตา


          โรคภูมิแพ้ขึ้นตา (Allergic conjunctivitis) เกิดจากสิ่งกระตุ้นที่ก่อให้เกิดแพ้ที่เยื่อบุตาขาว ทำให้มีการอักเสบ ผู้ป่วยจะมีอาการคันบริเวณดวงตาและเปลือกตา ตาแดง และอาจเกิดร่วมกับอาการแพ้ในระบบอื่นๆ เช่น โรคจมูกอักเสบ โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โรคหอบหืด เป็นต้น

 

ในชีวิตประจำวัน เรามีโอกาสสัมผัสสิ่งกระตุ้นให้เกิดการแพ้ได้หลายรูปแบบ เช่น

ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ควันไฟ

- อาหารบางประเภท เช่น อาหารทะเล เนื้อสัตว์ ไข่ ถั่วและธัญพืช

- ยาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบรับประทาน ฉีดเข้าสู่ร่างกาย หรือได้รับเข้าสู่ร่างกายในรูปแบบอื่นๆ เช่น ยาหยอดตา หรือยาทา

- สารเคมี เครื่องสำอาง

- เชื้อก่อโรค เช่น แบคทีเรีย หรือเชื้อรา

 

          อาการแสดงของโรคภูมิแพ้ขึ้นตา ได้แก่

- คัน เคืองตา

- แสบตา น้ำตาไหล

- ตาแดง

- มีขี้ตา

- รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมใต้เปลือกตา

- เปลือกตาบวม แดง หรืออักเสบ

 

แนวทางการรักษา แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มคือ

 

1. การรักษาโดยไม่ใช้ยา

          เริ่มต้นด้วยการให้ผู้ป่วยสังเกตสิ่งแวดล้อม อาหาร หรือผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ และหลีกเลี่ยง รวมทั้งป้องกันตนเองจากสิ่งกระตุ้นดังกล่าว และงดถูหรือขยี้ตา ซึ่งจะทำให้เกิดอาการคันมากขึ้น หรืออาจเกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนบริเวณดวงตาหากมือไม่สะอาด

 

2. การรักษาด้วยการใช้ยา

          กลุ่มยาหลักที่ใช้รักษา คือ ยาแก้แพ้ ทั้งในรูปแบบยาหยอดตาหรือยาทาน ซึ่งจะช่วยลดอาการคันตาและตาแดง ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการมาก จักษุแพทย์อาจพิจารณาให้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ชนิดหยอดร่วมด้วย

         อย่างไรก็ตาม ยาในกลุ่มนี้อาจต้องให้ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัด เนื่องจากมีโอกาสทำให้ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนทั้งต่อดวงตา เช่น ต้อหิน หรือต้อกระจก เป็นต้น