อ.นพ.วิศัลย์ อนุตระกูลชัย
ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ
รหัสเอกสาร PI-IMC-394-R-00
อนุมัติวันที่ 28 กันยายน 2566
ต่อมลูกหมาก (Prostate) คือ อวัยวะหนึ่งในระบบสืบพันธุ์เพศชาย อยู่บริเวณรอบท่อปัสสาวะส่วนต้นใต้ท่อกระเพาะปัสสาวะ ทำหน้าที่สร้างน้ำหล่อเลี้ยงตัวอสุจิ
โดยต่อมลูกหมากโตมักจะเริ่มพบได้ตั้งแต่อายุ 40 ปีและมักจะไม่มีอาการใดๆ ส่วนใหญ่จะเริ่มแสดง อาการเมื่ออายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป และอุบัติการณ์ของต่อมลูกหมากโตจะเพิ่มสูงขึ้นตามอายุที่มากขึ้น จาก การที่ต่อมลูกหมากอยู่รอบท่อปัสสาวะ เมื่อมีการโตขึ้นของต่อมลูกหมาก ทำให้เกิดการกดเบียดท่อปัสสาวะ ได้ ซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยเวลาปัสสาวะจะมีปัญหาปัสสาวะขัด ปัสสาวะต้องใช้แรงเบ่งมากขึ้น ในบางรายที่มี อาการรุนแรงมาก อาจจะทำให้ปัสสาวะไม่ออกได้
สาเหตุของโรคต่อมลูกหมากโต
ยังไม่มีหลักฐานการยืนยันถึงสาเหตุที่แท้จริงของโรคต่อมลูกหมากโต แต่คาดว่าจะสัมพันธ์กับระดับของฮอร์โมนเพศชาย
อาการของโรคต่อมลูกหมากโต
โดยอาการแสดงของโรคต่อมลูกหมากโต จะเกิดจากการที่ต่อมลูกหมากมีการกดเบียดท่อปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการที่เกี่ยวข้องกับการปัสสาวะ ซึ่งจะแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มอาการ คือ
1. อาการระคายเคืองทางเดินปัสสาวะ (Irritative symptoms)
• อาการปัสสาวะบ่อย (Frequency)
• อาการปัสสาวะเร่งรีบ (Urgency) มีการปวดปัสสาวะแล้วต้องรีบไปปัสสาวะ โดยไม่สามารถปฏิเสธหรือเลื่อนการปัสสาวะครั้งนั้นไปได้ ซึ่งในผู้ป่วยบางคนอาจจะมีปัญหาปัสสาวะเล็ดราดร่วมด้วยได้ (Urge urinary incontinence)
• อาการที่ต้องตื่นมาปัสสาวะตอนกลางคืน (Nocturia) คือ ขณะนอนหลับมีการตื่นมาปัสสาวะมากกว่า 1 ครั้งต่อคืน
2. อาการอุดกั้นทางเดินปัสสาวะ (Obstructive symptoms)
• ปัสสาวะไม่พุ่ง (Decreased force of urination) ผู้ป่วยอาจจะบอกว่าปัสสาวะไม่พุ่งหรือมีลำปัสสาวะเล็กลง เนื่องจากอาการจะค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้าๆ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงมักจะไม่ใส่ใจ
• ปัสสาวะออกช้า (Urinary hesitancy) คือ เวลาจะปัสสาวะตอนเริ่มต้นออกช้า ต้องใช้เวลาสักพัก ปัสสาวะถึงจะออกมาได้ ซึ่งโดยปกติในการขับปัสสาวะหลังจากที่มีการคลายหูรูดแล้ว ปัสสาวะก็จะออกมาทันที
• ลำปัสสาวะสะดุด (Intermittency) ลำปัสสาวะมีการขาดหรือสะดุดเป็นช่วงๆ
• ปัสสาวะหยดตอนท้าย (Postvoid dribbling) การที่มีปัสสาวะหยดออกมาหลังจากปัสสาวะเสร็จ มักเกิดจากมีปัสสาวะค้างอยู่ในท่อปัสสาวะ
• เบ่งปัสสาวะ (Staining) มีการใช้แรงดันจากช่องท้องในการปัสสาวะ ซึ่งโดยปกติเวลาปัสสาวะจะไม่ใช้แรงดันจากช่องท้อง
• ปัสสาวะค้าง (Incomplete emptying) อาการที่ยังรู้สึกว่าปัสสาวะไม่สุด รู้สึกว่ามีปัสสาวะค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ
การวินิจฉัยโรคต่อมลูกหมากโต
• ซักประวัติคนไข้โดยละเอียด
• ตรวจร่างกาย โดยรวมไปถึงการตรวจทางทวารหนัก (Digital Rectal Examination) เพื่อตรวจและประเมินขนาดของต่อมลูกหมากว่าผิดปกติหรือไม่ โดยแพทย์จะใช้นิ้วสอดเข้าไปในทวารหนักและตรวจคลำต่อมลูกหมาก
• ตรวจปัสสาวะ เพื่อตรวจดูว่ามีการอักเสบติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ หรือมีเลือดปนมาในปัสสาวะหรือไม่
• ตรวจเพาะเชื้อจากปัสสาวะ ในกรณีที่มีการอักเสบติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
• นอกจากนี้ อาจจะทำการทดสอบเพื่อวัดอัตราการไหลของปัสสาวะและปริมาณปัสสาวะที่สามารถปัสสาวะออกมาได้ รวมไปถึงวัดปริมาณปัสสาวะที่ค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ
• การตรวจคัดกรองหามะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA)
• การส่องกล้องผ่านทางท่อปัสสาวะ เพื่อประเมินขนาดของต่อมลูกหมากที่มากดเบียดท่อปัสสาวะ
การรักษาโรคต่อมลูกหมากโต
• หากแพทย์ประเมินอาการแล้วพบว่ามีอาการเพียงเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องรักษาหรืออาจจะใช้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ได้แก่ หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมากเกินไป โดยเฉพาะช่วงก่อนเข้านอน งดดื่มชา กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเป็นสาเหตุที่ทำให้ปัสสาวะบ่อยได้ หลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานๆ หลีกเลี่ยงอาการท้องผูก
• รักษาโดยการใช้ยา ซึ่งยาที่นำมาใช้รักษาจะมีอยู่ 3 กลุ่มได้แก่
• ยาคลายกล้ามเนื้อเรียบในต่อมลูกหมากให้คลายตัวลง (alpha-blockers)
• ยาช่วยลดขนาดต่อมลูกหมาก (5-alpha reductase inhibitor)
• ยาในกลุ่มสมุนไพร
• รักษาโดยการผ่าตัด ในกรณีที่มีข้อบ่งชี้ในการผ่าตัด ได้แก่
• ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา
• ปัสสาวะไม่ออกหลายครั้ง (Refractory urinary retention)
• ปัสสาวะเป็นเลือดซ้ำซาก (Recurrent hematuria)
• ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะซ้ำซาก (Recurrent urinary tract infection)
• เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ (Vesical calculi)
• เกิดภาวะไตวายซึ่งส่งผลมาจากต่อมลูกหมากโต
ซึ่งการผ่าตัดที่ถือว่าเป็นมาตรฐานในปัจจุบัน คือ การผ่าตัดด้วยการส่องกล้องคว้านต่อมลูกหมาก (TransUrethral Resection of Prostate : TURP) เพื่อตัดเอาเนื้อต่อมลูกหมากที่มีการกดเบียดท่อปัสสาวะออก โดยศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดจะสอดกล้องผ่านท่อปัสสาวะเข้าสู่ตำแหน่งของต่อมลูกหมาก โดยที่ปลายกล้องจะมีเครื่องมือผ่าตัด ลักษณะเป็นเส้นลวดไฟฟ้า ใช้สำหรับตัดเนื้อเยื่อต่อมลูกหมากส่วนที่กดเบียดท่อปัสสาวะเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วล้างเอาชิ้นเนื้อนั้นออกมาส่งตรวจ
ในกรณีที่ต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่มาก ศัลยแพทย์อาจจำเป็นต้องใช้วิธีการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง ซึ่งจะมีความเสี่ยงในการเสียเลือดมากขึ้น
การป้องกันการเกิดโรคต่อมลูกหมากโต
• ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดในการป้องกันการเกิดต่อมลูกหมากโต
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Call Center : 0-5393-6900-1 / คลินิกศัลยกรรม : 0-5393-6826
Line iD : @sriphat
หรือ เพิ่มเพื่อนใน LINE ด้วยคิวอาร์โค้ด
Facebook : SriphatMedicalCenter