ความรู้จากแพทย์ศรีพัฒน์

ตาปลอมคืออะไร



อ.พญ.ปรียานุช คุณทรงเกียรติ

จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำวุ้นตา จอประสาทตา และดวงตาประดิษฐ์

รหัสเอกสาร PI-IMC-258-R-00

อนุมัติวันที่ 26 พฤศจิกายน 2563

 

        ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่สูญเสียดวงตาจากสาเหตุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจากเรื่องของการติดเชื้อจากอุบัติเหตุ หรือว่าเป็นมะเร็งที่ดวงตา ซึ่งเมื่อผู้ป่วยสูญเสียดวงตาไป ก็อาจจะทำให้รูปลักษณ์ของใบหน้าผิดเพี้ยนไป ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการที่จะกลับไปอยู่ในสังคม ไปทำงาน หรือกลับไปเรียนหนังสือ ซึ่งดวงตาที่เสียไปแล้วนั้น สามารถทดแทนได้ด้วย “ตาปลอม”

 

        “ตาปลอม” คือ วัสดุที่ทำขึ้นเพื่อให้มีลักษณะใกล้เคียงกับตาข้างที่ปกติมากที่สุด โดยเป็นวัสดุแข็งที่ใส่ภายใต้เปลือกตาบนและเปลือกตาล่าง ซึ่งเมื่อใส่แล้วจะทำให้หน้าตากลับมาใกล้เคียงกับปกติ ช่วยให้ผู้สูญเสียดวงตามีความมั่นใจที่จะกลับเข้าสู่สังคมอีกครั้ง

 

ตาปลอมมีแบบใดบ้าง

ตาปลอมโดยทั่วไป จะมี 2 แบบ คือ


1. ตาปลอมสำเร็จรูป คือ ตาปลอมที่ทำเอาไว้เรียบร้อยแล้ว โดยสามารถเลือกสวมอันที่มีสีและขนาดพอดีกับร่องตาของตัวเองได้เลย


2. ตาปลอมเฉพาะบุคคล คือ ตาปลอมที่มีขั้นตอนการผลิตและพิมพ์ให้ได้ขนาดและสีใกล้เคียงกับตาข้างที่ปกติมากที่สุด ซึ่งอาจต้องใช้กระบวนการผลิตนาน และมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าตาปลอมสำเร็จรูป


        ทั้งนี้ ในการเลือกใช้ตาปลอม อาจต้องพิจารณาเกี่ยวกับร่องตา คือ หากร่องตาของผู้ป่วยมีลักษณะสมบูรณ์และมีรูปร่างใกล้เคียงกับตาสำเร็จรูปอาจไม่มีปัญหามากนักกับการเลือกหาตาปลอมสำเร็จรูปที่ใส่ได้พอดีกับร่องตา แต่หากร่องตามีลักษณะเฉพาะ เช่น มีร่องตาตื้นจากแผลเป็น มีร่องตากว้างเนื่องจากได้รับการผ่าตัดเอาตาออกแต่ไม่ได้ใส่ลูกตาเทียมทดแทน มีเบ้าตาลึกโหลจากการสวมใส่ตาปลอมมาเป็นเวลานานๆ การหาตาปลอมสำเร็จรูปที่ใส่พอดีกับร่องตาอาจไม่ใช่เรื่องง่าย

 

กระบวนการผลิตตาปลอมเฉพาะบุคคล

        การทำตาปลอมเฉพาะบุคคล โดยปกติใช้เวลาประมาณ 2 วัน ซึ่งวันแรกจะเริ่มจากการพิมพ์ร่องตา ด้วยวัสดุที่ใช้ในการพิมพ์ฟันจากนั้นทำแบบขี้ผึ้งและทำเบ้าหล่อตาปลอม เมื่อได้เบ้าหล่อแล้วจึงนำมาทำเป็นอะคริลิกลงสี และเคลือบใส จึงจะได้ตาปลอมที่มีความใกล้เคียงกับตาจริงหากลองสวมแล้วพอดี จะสามารถใส่กลับบ้านได้

 

คำแนะนำสำหรับผู้สวมตาปลอม

        ผู้ที่สวมตาปลอมควรให้ความสำคัญในเรื่องของการทำความสะอาด โดยการทำความสะอาดตาปลอมนั้นแนะนำให้ใช้น้ำ ยาคอนแทคเลนส์ ใช้เป็นแชมพูหรือสบู่เด็กอ่อนในการล้างทำความสะอาด และไม่ควรทำความสะอาดบ่อยเกินไป ประมาณ 1-2เดือนต่อครั้ง ไม่ควรจะถอดตาปลอมบ่อยๆ เนื่องจากการที่เราใส่และถอดตาปลอมบ่อย จะทำให้ร่องตาเปลี่ยนและอาจทำให้หนังตายืด ส่งผลให้เกิดปัญหาหนังตาตกได้ ดังนั้น จึงควรจะใส่ตาปลอมไว้ตลอดเวลา นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่สุด คือ การดูแลรักษาตาข้างที่ปกติไว้ให้ดี โดยควรมีแว่นสำหรับสวมเพื่อป้องกันและให้งดหรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความเสี่ยง ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือวัสดุต่างๆ กระเด็นเข้าตา เช่น การตัดหญ้า การตอกตะปู รวมทั้งควรมาตรวจตาเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง หรือหากมีอาการผิดปกติ ควรมาพบจักษุแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้อง